เตรียมสร้าง “ราชทิพยอุทยาน” น้อมเกล้าถวาย “ในหลวง-ราชินี”
เตรียมสร้าง “ราชทิพยอุทยาน” น้อมเกล้าถวาย “ในหลวง-ราชินี”
“คณะรัฐมนตรี และมหาเถรสมาคม” เตรียมสร้าง “ราชทิพยอุทยาน” ถวายในหลวง – ราชินี พร้อมนิมนต์เกจิดังสอนธรรมที่พุทธมณฑลครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หวังเป็นแหล่งเรียนรู้พระพุทธศาสนา และเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะ ประธานคณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายสงฆ์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) และมหาเถรสมาคม (มส.) ได้มีมติเห็นชอบตั้งคณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และ พัฒนาพุทธมณฑลแล้ว โดยฝ่ายสงฆ์ มีกรรมการ มส. ทุกรูป เป็นที่ปรึกษา มีตนเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการ ส่วนฝ่ายฆราวาส มีประธานองคมนตรี เป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ปรึกษา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการ ฝ่ายฆราวาส มีปลัดกระทรวงทุกกระทรวง เป็นคณะกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เป็นเลขานุการโดยตำแหน่ง ขณะนี้ คณะกรรมการได้ดำเนินการจัดทำแผนแม่บทโครงการพุทธมณฑล ธรรมรัตนบูชา ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก ภายใต้โครงการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถแล้ว
โดยเบื้องต้น คณะกรรมการเห็นว่า ในการปรับปรุงพุทธมณฑลครั้งใหญ่ที่สุด ในพื้นที่ ๒,๕๐๐ ไร่ หรือ ๔,๐๐๐,๐๐๐ ตารางเมตร จะแบ่งออกเป็น ๑๘ โซน โดยส่วนที่คณะสงฆ์จะดำเนินการได้ทันทีในปี ๒๕๕๘ นี้ ส่วนไหนที่ของบประมาณจากรัฐบาล คาดว่า จะเริ่มในปี ๒๕๖๐ ซึ่งจะเน้นให้พุทธมณฑลกลายเป็นแหล่งเรียนรู้พระพุทธศาสนา และหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สู่การปฏิบัติ ที่สำคัญรัฐบาล คณะสงฆ์ และประชาชนชาวไทย จะจัดสร้าง “ราชทิพยอุทยาน” หรือสวนแห่งพระราชา ที่หน้าองค์พระประธานพุทธมณฑล ถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ โดยภายในอุทยานจะมี ต้นไม้ทรงปลูกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ นอกจากนี้ จะมีการจัดไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ที่ส่งกลิ่นหอม ประกอบงานศิลปกรรมเทวดา นางฟ้า สระโบกขรณีที่งดงามให้ประชาชนชาวไทยได้มาพักผ่อน พร้อมศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
“สิ่งที่สามารถเริ่มดำเนินการได้ก่อน ก็คือ การจัดสร้างอาคารปฏิบัติธรรม เพื่อส่งเสริมให้ชาวพุทธ ได้มาฝึกวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ โดยจะมีการจำลองสวนเวฬุวัน หรือป่าไผ่ในสมัยพุทธกาล และพระอรหันตสาวกทั้ง ๑,๒๕๐ รูปมาไว้ภายในอาคารปฏิบัติธรรมหลังดังกล่าว พร้อมทั้งจะมีการจำลองสังเวชนียสถาน ๔ ตำบลขนาดเท่าของจริงมาไว้ที่พุทธมณฑลด้วย นอกจากนี้อาตมายังเห็นว่า ชาวพุทธในปัจจุบันสนใจวิปัสสนากรรมฐานมากขึ้น ดังนั้น คณะสงฆ์จะนิมนต์พระวิปัสสนาจารย์ชื่อดังในประเทศไทย เช่น หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี หลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พระอาจารย์สุรศักดิ์ วัดมเหยงค์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลวงปู่ทองใบ วัดนาหลวง จังหวัดอุดรธานี พระจารย์มานพ วัดเขาดินหนองแสง จังหวัดจันทบุรี เป็นต้น มาเทศนาสอนธรรมแก่พุทธศาสนาชนที่พุทธมณฑลอย่างต่อเนื่อง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาไทย เพื่อกระตุ้นให้ชาวพุทธ รวมถึงคนรุ่นใหม่มาที่พุทธมณฑล และนำหลักธรรมไปสู่การปฏิบัติ” ประธานคณะกรรมการ อำนวยการ กล่าว
นายกนก แสนประเสริฐ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ขณะนี้แผนแม่บทได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยจะของบประมาณในปี ๒๕๖๐ ขั้นตอนจากนี้ไป พศ. หารือกับกรมโยธาธิการ เพื่อวางแผนปรับโครงสร้างพื้นฐานภายในพุทธมณฑล เช่น ถนน ระบบไฟฟ้า เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะทำรายงานเสนอคณะกรรมการอำนวยการ จากนั้นจะนำแผนแม่บทรวมถึงกรอบงบประมาณ เสนอต่อ มส. และเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
ที่มา :
ข่าวสด. (2558). รบ.พร้อมสร้าง “ราชทิพยอุทยาน” น้อมเกล้าฯ. เข้าถึงได้จาก http://daily.khaosod.co.th/ถวาย”ในหลวง”
เดลินิวส์. (2558). สร้าง “ราชทิพยอุทยาน”ถวายในหลวง-ราชินี”. เข้าถึงได้จาก http://www.dailynews.co.th/education/332993
ผู้จัดการออนไลน์. (2558). สร้าง “ราชทิพยอุทยาน” ถวายในหลวง-ราชินี. เข้าถึงได้จาก http://www.manager.co.th/QOL/ ViewNews.aspx?NewsID=9580000076344